News & Events

เที่ยวเกาหลีฤดูไหนดี?

เที่ยวเกาหลี หน้าไหนก็เที่ยวได้ แต่ถ้าจะให้ดีต้องเช็กสภาพอากาศกันก่อน จะฤดูใบไม้ผลิ – ร้อน – ร่วง – หนาว อุณหภูมิแค่ไหน? แต่งตัวยังไง? สภาพอากาศเป็นอย่างไร? แล้วจะเตรียมเสื้อผ้าการแต่งกายในแต่ละฤดูอย่างไรดี? เรามาดูกันดีกว่า!ประเทศเกาหลีมีช่วงฤดูกาลที่แตกต่างจากประเทศไทย โดยมีถึง 4 ฤดูด้วยกัน ซึ่งบรรยากาศในแต่ละฤดูก็จะแตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน ถ้าถามว่าไปฤดูไหนสวยที่สุดก็คงตอบฟันธงให้ไม่ได้ เพราะแต่ละฤดูจะให้อารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกัน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากไปเห็นเกาหลีในช่วงไหนและต้องการบรรยากาศแบบใด แต่บอกได้อย่างเดียวว่าจะไปช่วงไหนก็ฟินได้ทู้กกกกกฤดูจ้าในภาพคือ Mt. Seonunsan ในช่วง “ใบไม้เปลี่ยนสี” ซึ่งจะเห็นภาพแบบนี้ได้เฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นฤดูหนาว Winterเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ? -5°C ถึง -20°Cอากาศจะแห้งและหนาวจัด บางครั้งมีฝนหรือหิมะตกด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่าฤดูนี้เป็นฤดูที่โรแมนติกที่สุดของชาวเกาหลีเขาเลย ซึ่งถ้าจะไปเที่ยวหน้านี้ต้องเตรียมเครื่องกันหนาวที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น เช่น ชุดลองจอห์น? เสื้อกันหนาว เสื้อโค้ท ถุงมือ ถุงเท้า ผ้าพันคอ ที่ปิดหู รองเท้า เรียกว่าต้องจัดเต็มตั้งแต่หัวจรดเท้านั่นแหละ (ถึงแม้อาจจะเบียดเบียนพื้นที่ในกระเป๋าไปเกินครึ่งก็เถอะ! แต่ถ้าใครยังมีไม่ครบหรือไม่พอ แนะนำให้ไปซื้อที่เกาหลีจะได้ราคาถูกมากเลย หิ้วไปเยอะก็หนักนะ ไปซื้อเอาใหม่เลิศกว่า)สถานที่เที่ยวเด็ดๆ ในฤดูนี้ ได้แก่ ลานไอซ์สเกต (ลานของเกาหลีจะเป็นแบบ outdoor กันเลย และมีอุปกรณ์ให้เช่าในราคาถูก) แหล่งเล่นหิมะ สกีรีสอร์ต รวมทั้งเทศกาลน้ำแข็ง และตกปลาเทร้าท์ภูเขาของเมืองฮวาซอง เทศกาลจับปลาน้ำแข็งที่อินเจ เป็นต้นว่าแล้วก็เป็นฤดูที่บ้านเราไม่มีนี่เนอะ …ไปลองสัมผัสหิมะดูสักทีก็โอเคนะ!ช่วงหน้าหนาวของเกาหลีเขาหนาวจริง! มีกิจกรรมเกี่ยวกับหิมะให้เล่นมากมายเลยล่ะ!การเดินชมวิวหิมะตามธรรมชาติที่ Mt. Deogyusan ก็เป็นอีกกิจกรรมยอดนิยมในฤดูหนาวของเกาหลีฤดูใบไม้ผลิ Springเดือนมีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 6°C ถึง 16°Cช่วงนี้ดอกไม้จะเยอะ ต้นไม้จะผลิใบสะพรั่งเต็มต้น แดดสดใสตลอดทั้งวัน ช่วงเวลากลางวันก็จะยาวนานขึ้นด้วย ชาวเกาหลีจะถือว่าฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูแห่งการเริ่มต้น สถานที่ต่างๆจะเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้หลากหลายพันธุ์ เกาหลีจัดเต็มในช่วงนี้ด้วยเทศกาลฤดูใบไม้ผลิไฮไลต์ของฤดูนี้ต้องยกให้ “เทศกาลชมดอกซากุระเกาหลี (Cherry Blossom)” นั่นเอง ซึ่งไม่ใช่แค่ชาวเกาหลีเท่านั้นที่ตั้งตารอ แต่นักท่องเที่ยวหลายคนก็อยากไปสัมผัสปรากฎการณ์สีชมพูของดอกซากุระเช่นกัน เทศกาลนี้จะเริ่มในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษายน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย ซึ่งต้องคอยเช็กใกล้ๆ วันเดินทางอีกทีว่าจะบานช่วงไหน) ซึ่งส่วนใหญ่ทางใต้ของประเทศจะบานก่อน และจะอยู่ให้ชื่นชมไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็จะร่วงหมด นอกจากนี้เราจะเริ่มเห็นดอกทิวลิปกันในฤดูกาลนี้เช่นกัน เริ่มมีให้เห็นได้ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมจนถึงต้นพฤษภาคมกันเลยการแต่งกายไปเที่ยวช่วงนี้ ควรสวมเสื้อผ้าสบายๆ แค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่มีแจ็คเก็ตทับก็ได้แล้ว เพราะอากาศกำลังเย็นสบาย เหมาะกับการไปเดินทอดน่อง แต่สิ่งที่ควรระวังคือ ช่วงเย็นอุณหภูมิจะลดลงเร็วมาก ดังนั้นหากมีแผนจะเดินเที่ยวจนเย็น ก็อาจพกผ้าพันคอเบาๆ ติดตัวไปด้วยก็ได้ ส่วนเทศกาลอื่นในช่วงนี้ก็เช่น เทศกาลทะเลแหวกที่ชินโด เทศกาลโคมไฟดอกบัว ฯลฯ แต่ถ้าใครชอบธรรมชาติแนะนำให้ขึ้นเขาเลย สวยน่าดูชมเพราะจะเต็มไปด้วยพรมดอกไม้ฤดูแห่งการเริ่มต้นที่เริ่มต้นด้วยสีชมพูของดอกซากุระเกาหลีฤดูใบไม้ผลินี้มีเทศกาล Jindo Sea Crossing Festival ที่คนจะ “เดิน” แหวกทะเลกันด้วยค่ะฤดูร้อน Summerเดือนมิถุนายน – สิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 22°C และอาจถึง 38°C ในช่วงที่ร้อนจัดเป็นช่วงที่อากาศร้อนที่สุดในเกาหลี (ไม่ต่างกับบ้านเรา) และอาจมีฝนตกบ้าง ฤดูนี้ต้นไม้จะเขียวชอุ่มมองไปทางไหนก็จะเห็นสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้า ซึ่งถ้าอยากได้ตั๋วเครื่องบินหรือแพ็คเกจทัวร์ราคาถูกก็ช่วงนี้แหละ ให้รีบคว้าเลยในช่วงฤดูนี้จะมีเทศกาลฮิตๆ ประจำปีได้แก่ เทศกาลหมักโคลนโพเรียง เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติพูชน เทศกาลชมหิ่งห้อยมูจู เป็นต้นส่วนการแต่งตัวในช่วงนี้ก็จะไม่ต่างกับบ้านเรา แต่งเบาๆ เน้นใส่สบาย ระบายอากาศดี อาจเป็นกางเกงขาสั้น กับเสื้อแขนกุดสีสันจี๊ดๆ บวกแว่นตากันแดด กับหมวกเก๋ๆ ก็ได้ หรือหากกลัวผิวเสียก็ลองหาเสื้อคลุมบางๆ มาใส่ไว้ (ขอบอกว่าแดดที่นั่นทำให้ตัวดำขึ้นมาเป็นกอง) ที่สำคัญควรพกร่มไปด้วย เพราะโอกาสเจอฝนสูงฤดูร้อนของเกาหลีจะเขียวชอุ่มเพราะมีฝนตกมากถึงหน้านี้ เกาหลีก็มีเทศกาลเล่นโคลนกันให้หายร้อน!ฤดูใบไม้ร่วง – ใบไม้เปลี่ยนสี Autumnเดือนกันยายน – พฤศจิกายน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 5°C ถึง 25°Cอากาศสดชื่นเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส เป็นช่วงที่ถือได้ว่าสวยงามที่สุดของเกาหลีและเหมาะกับการท่องเที่ยวมากที่สุด นักท่องเที่ยวที่มาในช่วงนี้จะได้เห็นปรากฏการณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนเป็นสีส้มและสีแดง ส่วนใบแปะก๊วยจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่าม ซึ่งจะมีให้เห็นกันเต็มตาประมาณกลางเดือนตุลาคม-กลางพฤศจิกายน ช่วงเวลาดังกล่าวสถานที่ต่างๆ จะคึกคักเป็นพิเศษ โดยสถานที่ที่ถือเป็นแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดก็คือ “อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน” และ “เกาะนามิ”ส่วนการแต่งกายแนะนำให้ใช้ ชุดลองจอห์น เสื้อกันหนาวที่ไม่หนามาก กางเกงขายาว เลกกิ้ง รองเท้าหุ้มส้น อาจมีผ้าพันคอกันลมด้วยก็ดี เพราะที่เกาหลีลมจะค่อนข้างแรงสำหรับเทศกาลน่าสนใจในช่วงฤดูนี้ก็จะเป็น เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติพูซาน เทศกาลโคมจินจู นัมกัง เทศกาลระบำหน้ากากอันดง เป็นต้นฤดูใบไม้ร่วง นอกจากอากาศดีแล้วเรายังจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้มๆ แดงๆ สวยงามมากๆ!ระบำหน้ากาก เทศกาลประจำฤดูใบไม้ร่วงของเกาหลีเขาล่ะเอาล่ะ ว่ามาครบทุกฤดูแล้ว ชอบฤดูไหนก็เตรียมวันหยุดรอไว้เลย หรือจะค่อยๆ ไปทีละฤดูก็ไม่ว่ากันขอขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือ “เกาหลี ตะลอนเที่ยว เล่มเดียวเอาอยู่” | ภาพประกอบจาก : www.visitkorea.or.kr

สุดเจ๋ง!! สิงคโปร์เปิดตัว

สุดเจ๋ง!! สิงคโปร์เปิดตัว "Project Bus Stop" ป้ายรถเมล์อัจฉริยะ เอาใจนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่สิงคโปร์เปิดตัว "Project Bus Stop" ป้ายรถเมล์อัจฉริยะ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังเพิ่มจุดอ่านหนังสือและดาวโหลด E-Book ได้อีกด้วย     เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา รัฐบาลและกลุ่มสถาปนิคของประเทศสิงคโปร์ได้ทำการเปิดตัวป้ายรถเมล์อัจฉริยะซึ่งได้ร่วมกันคิดค้นขึ้นมา ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น โดยได้มีการจัดตั้งจุดบริการในการให้ข้อมูลระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อเป็นช่องทางในการที่จะให้ประชาชนได้ค้นหาข้อมูลการเดินทางด้วยตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งข้อมูลจะมีการระบุทั้งเวลาเดินรถ เวลามาถึงจุดหมาย และสถานที่ที่จะไป ผู้โดยสารสามารถเลือกอุปกรณ์ค้นหาได้ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ป้ายรถเมล์อัจฉริยะนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลองใช้งานเท่านั้น แต่ในอนาคตรัฐบาลของสิงคโปร์ ได้มีการวางแผนที่จะปรับปรุงและขยายป้ายรถเมล์อัจฉริยะให้มีจำนวนมากขึ้น ครอบคลุมจุดสำคัญในประเทศ

20 โรงภาพยนตร์สุดเจ๋งจากทั่วโลก ที่คุณต้องร้องโอ้โห!

นับตั้งแต่เริ่มมีโรงภาพยนตร์ในปี 1900 ก็ได้มีโรงภาพยนตร์เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก จนเดี๋ยวนี้ เราไม่ต้องออกไปดูหนังในโรงภาพยนตร์กันแล้ว เพราะมันมาตั้งอยู่ในบ้านเรากันแล้ว แต่อย่างไร มันจะไปได้อรรถรสอะไรเหมือนกับที่เราดูในโรงหนัง เพื่อเป็นการยืนยันว่าการดูหนังที่โรงภาพยนตร์นั้นมันคูลสุดๆ ทีมงานไทยแวร์เลยจะพาไปดูโรงหนังที่ต้องใช้คำว่า "แจ่มแมว" ที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก จนคุณต้องอยากจะไปอยู่ตรงนั้นเลยทีเดียว1. Amante, Ibiza, Spainโรงภาพยนต์แบบโอเพ่นมากๆ ล้อมรอบไปด้วยหิน และดวงดาว คุณสามารถเพลิดเพลินกับข้าวโพดคั่วสดและไวน์ได้ระหว่างการชมภาพยนตร์2. St. George OpenAir Cinema, Sydney, Australiaโรงละคร St. George OpenAir Cinema ที่มีฉากหลังเป็น ซิดนีย์ โอเปร่าเฮาส์ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับชาวเมือง คุณจะได้ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มและอาหาร กับทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ หน้าจอจะยกขึ้นสูง พร้อมที่นั่งรองรับ 2000 ที่เลยทีเดียว3. Film4 Summer Screen at Somerset House, London, UKหนึ่งในโรงภาพยนตร์แบบเอาท์ดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน จะเปิดให้บริการในช่วงฤดูร้อนของทุกปี คุณจะได้เต็มอิ่มกับภาพยนตร์บนหน้าจอขนาดใหญ่และเสียงเซอร์ราวด์แบบรอบทิศทาง4. Hot Tub Cinema, UK, USA, Ibizaโรงภาพยนตร์ประสบการณ์ใหม่ ที่คุณจะได้ชมภาพยนตร์พร้อมกับนอนแช่ในอ่างน้ำร้อนอย่างสบายใจ ดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่มที่ชื่นชอบ แถมยังได้เห็นสาวๆ ใสบิกินี่อีกต่างหาก อะไรจะดีปานนั้น ใครที่เป็นสายดริ้งค์นี่น่าไปลองเป็นที่สุด5. Filmnaechte am Elbufer, Dresden, Germanyโรงภาพยนตร์และงานแสดงสินค้ากลางแจ้งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเยอรมนี ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงหน้าร้อนของทุกปี ตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคม ในเดรสเดนบนแม่น้ำเอลเบ ในทุกๆ ปีจะมีผู้คนไปราว 150,000 คน6. Olympia Music Hall, Franceโรงภาพยนตร์ที่สวยงามแห่งนี้เปิดขึ้นในปี 1889 จนบัดนี้ได้ปรับปรุงจอให้มีขนาดใหญ่ขึ้น มีเตียงนอนนุ่มๆ แสนสบายให้คุณนอนชมกับคู่รัก หรือจะมากับเพื่อนก็ได้ไม่ว่ากัน7. Sci-Fi Dine-in Theater, Los Angeles, California ถ้าใครเดินทางไปลอสแองเจลิส ควรหาโอกาสไปสัมผัสโรงละครที่น่าทึ่งแห่งนี้ เพราะคุณจะได้นั่งชมภาพยนตร์อยู่บนรถคลาสิกสไตล์ 50' ภายใต้บรรยากาศวินเทจ8. Urania National Film Theatre, Budapest, Hungaryด้วยการออกแบบอาคารทั้งภายใน และภายนอกที่สวยงามเกินคำบรรยาย ทำให้โรงภาพยนตร์แห่งนี้จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ เลยทีเดียว โรงภาพยนตร์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1880 เป็นทั้งโรงละครเพลง และเต้นรำ นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องแรกของฮังการียังถ่ายทำที่นี้อีกด้วย9. Fox Theatre, Detroit, USAศูนย์ศิลปะการแสดงแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1929 และจุคนได้กว่า 4,678 คน ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่แสดงละคร ศิลปะแขนงต่างๆ รวมถึงคอนเสิร์ต และฉายภาพยนตร์10. Puskin Art Cinema, Budapest, HungaryPuskin เป็นโรงภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของบูดาเปสต์ เปิดเมื่อปี 1926 อดีตเคยเป็นโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ปัจจุบันถูกปรับปรุงให้มีโรงฉาย 3 โรง ด้วยระบบภาพและเสียงที่ยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยน11. The Odyssey of Pi: Cinema on the Water, Paris, Franceโรงภาพยนตร์สุดแนวอีกแห่ง ที่คุณจะได้นั่งดูหนังแบบชิวๆ บนเรือ ใช่! คุณอ่านไม่ผิดบนเรือที่อยู่ในน้ำเลย แต่เป็นสระน้ำและมีเซฟตี้ปลอดภัยไม่ต้องกลัว และที่นี่จัดฉายรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ Life of Pi น่าจะได้อรรถรสกันแบบเต็มๆ ไปเลยทีเดียว12. La Géode, Franceโรงภาพยนตร์นี้ก่อตั้งในปี 1985 เป็นโรงภาพยนตร์ที่มีจอใหญ่ที่สุดในยุโรป มีผู้เข้าชมมาแล้วกว่า 20 ล้านคน แถมรูปแบบอาคารยังสวยงาม และน่าทึ่งสุดๆ13. Electric Cinema, London, UKElectric Cinema เป็นหนึ่งในโรงละครที่เก่าแก่ที่สุดของอังกฤษ มีเก้าอี้หนังหรูหรา อบอุ่นกับผ้าห่มที่ทอจากขนสัตว์ พร้อมด้วยบริการเสิร์ฟเครื่องดื่ม ให้คุณรู้สึกดูหนังอย่างราชาเลยทีเดียว14. The Bijou Theater, Bridgeport โรงภาพยนตร์ 202 ที่นั่ง คุณจะได้รู้สึกเหมือนได้พักผ่อน นั่งเอนหลังพร้อมแก้วไวน์ และเพลิดเพลินกับการชมภาพยนตร์15. Cineteca Del Matadero, Madrid, Spainเมื่อ 85 ปีก่อนที่นี่เคยเป็นโรงปศุสัตว์ ก่อนที่จะถูกดัดแปลงเป็นโรงภาพยนตร์ที่สวยงามอลังการ รายล้อมไปด้วยซุ้มไฟขนาดใหญ่ และยังใช้เป็นสตูดิโอถ่ายทำภาพยนต์ รวมถึงลานระเบียงสำหรับการฉายกลางแจ้ง 16. Archipelago Cinema, Thailandโรงภาพยนตร์ลอยน้ำที่คุณจะได้ชมอยู่ท่ามกลางทะเลสีครามสดใส รายล้อมไปด้วยขุนเขา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าโรงภาพยนตร์นี้อยู่ในบ้านเรานี่เอง ที่เกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา นั่นเอง แถมยังเป็นโรงหนังน่าดูอันดับ 2 ของโลก จากการจัดอันดับของ TotalFilm อีกด้วย โดยโรงภาพยนตร์นี้ถูกสร้างขึ้นในเทศกาล Film on the Rocks ซึ่งคนดูจะอยู่บนแพไม้ขนาดใหญ่ ที่มีเบาะนุ่มๆ จุผู้ชมได้ 60 ที่นั่ง17. Orinda Theatre, CaliforniaOrinda Theatre สร้างขึ้นในปี 1941 โดยผลงานการออกแบบของ  Alexander Aimwell Cantin ด้วยการออกแบบที่มีสไตล์ทำให้โรงภาพยนตร์ Orinda จึงเป็นสมบัติล้ำค่า และยังฉายภาพยนตร์จนถึงทุกวันนี้18. Regent Cinema, Brisbane, Australiaโรงละครที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1938 แต่ในช่วงสงครามได้เกิดไฟไหม้ ทำให้โครงสร้างบางส่วนพังถล่มเสียหาย แต่ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมจนกลับมาเปิดให้บริการได้ตามเดิม และยังคงมนตร์เสน่ห์ความเก่าแก่ได้จวบจนปัจจุบัน19. Transatlantyk Festival, Poznańเทศกาล Transatlantyk เป็นเทศกาลที่ฉายภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และดนตรีจากทั่วทุกมุมโลก คุณจะได้นอนดูหนังอยู่บนเตียงนุ่มๆ ในห้องนั่งเล่นส่วนตัว 20. Film On The Rocks, Red Rocks, Denver, ColoradoFilm on the Rocks เป็นเทศกาลภาพยนตร์และดนตรีกลางแจ้ง ที่สวยงามและกว้างขวาง ท่ามกลางเทือกเขาหิน และทรายล้อมรอบ ซึ่งในทุกๆ ปีจะมีผู้มาร่วมงานหลายหมื่นคนเลยทีเดียว ที่มา : www.hongkiat.com