12 กรกฎาคม 2559
|
เปิดอ่าน 4960
ทะเลหมอกหน้าฝนในเมืองไทย มองเห็นทะเลหมอก สีขาวโพลน ล่องลอยแทรกตัวกลางหุบเขา ท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวขจี เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวหน้าฝนที่คุณไม่ควรพลาด
ช่วงฤดูฝนที่ฝนตกโปรยปรายแบบนี้ ทำให้หลายคนไม่อยากออกไปเที่ยวนอกบ้าน
แต่นี่กลับเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าช่วงเวลากรีนซี่ซั่น (Green Season)
ทางการท่องเที่ยวได้มาถึงแล้ว "ทะเลหมอกหน้าฝน" ดูจะเป็นอีกหนึ่งความงดงามของธรรมชาติที่ไม่แพ้ทะเลหมอกหน้าหนาวเลยทีเดียว และเมื่อมองให้ดี ๆ จะรู้เลยแตกต่างกันอย่างชัดเจน วันนี้เราเลยอยากแนะนำจุดชมวิวทะเลหมอกหน้าฝน มาให้เพื่อน ๆ ได้ไปซึมซับบรรยากาศ ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวขจี แค่นึกก็ทำเอาหัวใจเต้นรัวไม่หยุดแล้ว
1. จุดชมวิวม่อนสน จังหวัดเชียงใหม่
จุดชมวิวม่อนสน
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่
บรรยากาศที่จุดชมวิวม่อนสนในช่วงหน้าฝนจัดได้ว่าแจ่มไม่แพ้หน้าหนาว
ยิ่งถ้าเป็นช่วงหลังฝนตกใหม่ ๆ จะเห็นทะเลหมอกสุดลูกหูลูกตา
ลอยผ่านตัวไปเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีจุดไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้นอนกางเต็นท์
เพื่อที่ว่าเมื่อตื่นนอนตอนเช้า คุณจะได้ชื่นชมกับทะเลหมอกสวย ๆ
ตรงเบื้องหน้า พร้อมวิว 360 องศา ชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า
และไม่แน่นะว่าอาจมีเช้าวันไหนสักวัน
ที่คุณถูกปลุกให้ตื้นขึ้นมาด้วยละอองไอหมอกมาที่ลอยมาเคาะประตูถึงหน้า
เต็นท์เลยทีเดียว แค่นึกก็ฟินระดับสิบแล้ว
Tips : ข้าง
บนจุดชมวิวมีลานกางเต็นท์
เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลงหลักปักหมุดดูทะเลหมอกแบบใกล้ชิด
พร้อมให้นักท่องเที่ยวเช่าเต็นท์และเครื่องนอนได้เลย
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก โทร. 053
453 517, 0844 834 6892. จุดชมวิวเสม็ดนางชี จังหวัดพังงา
ที่นี่ถือได้ว่าเป็นจุดแห่งใหม่ของจังหวัดพังงา
ว่ากันว่าบรรยากาศวิวระดับหลักล้านเลยก็ว่าได้
ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศของท้องฟ้ายามค่ำและพระ
อาทิตย์ขึ้นในยามเช้า รวมถึงสุดยอดวิวที่สวยงามของอ่าวพังงา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝน คุณจะเห็นร่องรอยของละอองหมอกจาง ๆ
ที่พยายามเคล้าคลอเคลียกับภูเขาหินปูนหลากหลายรูปทรงอยู่กลางทะเล
เป็นความสวยงามที่ชวนให้ดูแปลกตา
ราวกับว่าเหมือนได้เห็นสรวงสวรรค์ปรากฏลอยอยู่ตรงหน้าก็ไม่ปาน
จนกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมานี้เอง
จนทำให้มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อย
อยากที่จะเดินทางไปพบกับสวยงามที่นั่น
Tips :
นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์นอนบนจุดชมวิวเสม็ดนางชีได้
โดยสามารถติดต่อได้ที่ บังหนี โทร. 062 208 1390
ใครนำเต็นท์มาเองเสียค่าบริการ 130 บาท (พร้อมอาหารเช้า) เต็นท์มีหลายขนาด
ขนาดเล็ก 2 คน ราคา 400 บาท, ขนาดกลาง 4-6 คน ราคา 800 บาท และขนาดใหญ่
8-10 คน ราคา 1,000 บาท ทั้งหมดรวมอาหารเช้า3. จุดชมวิวบ้านจ่าโบ่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
หนึ่งในบรรดาจุดชมวิวทะเลหมอกช่วงหน้าฝนที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรพลาด
ใครที่เดินทางที่ยังจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งนี้
รับรองได้ว่าคุณจะได้ซึมซับทุกอณูความเขียวขจีของธรรมชาติ
ภาพของสายหมอกสีขาว ที่ลอยละมุนอ้อยอิ่งเคล้าภูเขาลูกนั้นทีลูกโน้นที
ราวกับว่าเป็นดินแดนในฝัน ที่ใครได้มาแล้วจะตกหลุมรักที่นี่อย่างง่ายดาย
ซึ่งนอกจกจุดชมวิวที่เหมือนจะเป็นไฮไลท์เด็ดแล้ว
ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านจ่าโบ
ที่จะเปิดประสบการณ์นักท่องเที่ยวให้ได้เรียนรู้และสัมผัสเสน่ห์ความน่ารัก
ของชาวบ้าน ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเรียบง่าย
คล้ายกับว่าเป็นด้านตรงข้ามกับวิถีชีวิตในเมืองใหญ่
Tips :
ถ้าอยากจะเข้าไปสัมผัสและเรียนรู้วัฒนธรรมความเรียบง่ายของชุมชนบ้านจ่าโบ่
ให้มากขึ้น แนะนำให้คุณลองไปกิน ไปอยู่
ไปนอนกับชาวบ้านในรูปแบบบ้านพักโฮมสเตย์ สามารถดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ "ไปเที่ยวบ้านจ่าโบ่ แม่ฮ่องสอน ยลเสน่ห์ความเรียบง่ายที่ไม่เหมือนใคร"4. ขุนเขาบ้านรักไทย จังหวัดพิษณุโลก
ตั้งอยู่ภายในเขตตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง
จังหวัดพิษณุโลก
จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาเที่ยวที่นี่
คือการเข้าพักโฮมสเตย์ของชาวบ้าน ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติหลากหลาย
ทั้งพรรณไม้งดงาม ที่โอบล้อมด้วยสวนผลไม้
พลาดไม่ได้กับจุดชมวิวที่มีลักษณะเป็นทางเดินระเบียงสูง
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา ไกลแบบสุดลูกหูลูกตา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหน้าฝน
คุณจะมองเห็นภาพทะเลหมอกจำนวนมากที่เคลื่อนผ่านและแทรกกลางภูเขาน้อยใหญ่
สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวทุกคนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
รวมถึงเก็บภาพบรรยากาศความสวยงามของตะวันตกดินอีกด้วย
Tips :
ถ้าอยากจะดื่มด่ำบรรยากาศทะเลหมอกหน้าฝนที่นั่นให้มาก ๆ
เราแนะนำให้คุณลองนอนค้างคืนโฮมสเตย์ของชาวบ้าน
ซึ่งแต่ละหลังบอกเลยว่าจะมีวิวส่วนตัวสวยไม่เหมือนกัน พูดง่าย ๆ
คือทำให้ภาพที่เราถ่ายออกมาได้เรื่องราวที่มีความหมายต่างกันไปนั่นเอง
5. จุดชมวิววัดกองเนียม จังหวัดเพชรบูรณ์
เขาค้อเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชมทะเลหมอกได้เกือบช่วง
หน้าฝนและหน้าหนาว อีกหนึ่งจุดชมวิวเขาค้อที่อยากแนะนำ
"จุดชมวิววัดกองเนียม"
ซึ่งเป็นวัดเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ทางขึ้นพระตำหนักเขาค้อ
ตรงบริเวณจุดชมวิวคุณจะมองเห็นทัศนียภาพของหมู่บ้านและหุบเขา
สลับกับสายหมอกหน้าฝนบาง ๆ ในยามเช้า โดยมีต้นค้อสูงใหญ่ตั้งตระหง่าน
พร้อมดวงอาทิตย์สีส้มกลมโตดวงใหญ่สวยงาม
ทะเลหมอกที่วัดกองเนียมพบได้บ่อยในช่วงปลายฝนต้นหนาว
ในวันที่ไม่มีกระแสลมโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน
จะเป็นช่วงที่มีทะเลหมอกมาให้คุณได้ชมแบบแน่น ๆ ฟู ๆ
Tips :
ถ้าอยากที่จะมองให้ทันเห็นวิวทะเลหมอกสวย ๆ ต้องมาช่วงระหว่างเวลา
05.00-06.00 น. ว่ากันว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่สวยที่สุดในการดูทะเลหมอก
ก่อนที่สายหมอกจะค่อย ๆ สลายตัวไป
6. จุดชมวิวเขากระโจม จังหวัดราชบุรี
ตั้งอยู่ในอำเภอสวนผึ้ง
ด้วยเพราะลักษณะของภูเขาที่มีรูปร่างคล้ายกับกระโจมอินเดียนแดง
จึงเป็นที่มาของชื่อเขากระโจมมาถึงทุกวันนี้
ด้วยเพราะเขากระโจมเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของยอดเขาตะนาวศรี
ทำให้บริเวณด้านบนมีจุดชมวิวที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว
แต่ถ้าจะให้ดีควรไปช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม เพราะจะมีทะเลหมอกสีขาวตระการตา
ได้สัมผัสกับอากาศเย็น ๆ ชื่นใจ ท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวขจี
นอกจากนี้ทางด้านบนจุดชมวิวยังมีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้นอนกางเต็นท์
(ซึ่งต้องเตรียมไปเอง) ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นอนดูดาวสวย ๆ เต็มท้องฟ้า
พร้อมกับต้อนรับรุ่งอรุณแสงอาทิตย์ตอนเช้า และโบมือลาในตอนเย็น
Tips : ถ้า
อยากจะไปเที่ยวเขากระโจมให้สนุก แนะนำให้หาเพื่อนไป
เพราะคุณจะได้หาเพื่อนร่วมทางที่ไว้แชร์ค่าใช้จ่ายในการเหมารถของเจ้า
หน้าที่หรือชาวบ้านขึ้นไป เพราะเส้นทางที่ขึ้นค่อนข้างขรุขระและลำบาก
ต้องใช้ผู้ชำนาญในการขับรถเป็นอย่างมาก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี
โทรศัพท์ 0 3247 1005
7. จุดชมวิวตะเพินคี่ จังหวัดสุพรรณบุรี
ตั้งอยู่ภายในหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ 3 ในอุทยานแห่งชาติพุเตย
จังหวัดสุพรรณบุรี
ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และสวยงาม
ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่แนะนำคือช่วงปลายฝนต้นหนาว
ตั้งแต่เดือนกันยายน-ธันวาคมของทุกปี
ใครลองได้ขึ้นมายังจุดชมวิวตะเพินคี่แห่งนี้คุณจะมองเห็นทัศนียภาพของภูเขา
ที่สลับซับซ้อน ในยามเช้าแน่นอนว่าคุณก็จะได้เห็นทะเลหมอกลอยนิ่งเอื่อย
อีกทั้งอากาศก็ยังเย็นกำลังดี โดยเฉพาะในยามเช้าและยามค่ำ
และหากใครต้องการนอนกางเต็นท์บริเวณจุดชมวิวตะเพินคี่ก็ได้จัดลานกางเต็นท์
ไว้ให้
นักท่องเที่ยวจะนำเต็นท์มาเองหรือจะเช่าเต็นท์ของเจ้าหน้าที่ก็ได้เช่นกัน
Tips :
หากนักท่องเที่ยวคนไหนสนใจที่จะไปนอนกางเต็นท์ช่วงหน้าฝน
การเดินทางเข้าไปควรใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น
หรือใครสนใจจะเดินเท้าก็ควรฟิตร่างกายมาให้พร้อม เพราะระยะทางค่อนข้างไกล
เพราะอาจจะต้องปีนขึ้นที่สูงหลายจุดด้วยกัน ดั้งนั้นรองเท้าต้องพร้อม
คนก็ต้องฟิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติพุเตย โทร. 035
446 237, 081 934 2240, 081 287 72488. จุดชมวิวเขาหลวง จังหวัดสุโขทัย
ภาพจาก gopfaster / shutterstock.com
เขาหลวง
ตั้งอยู่อำเภอคีรีมาส
ในเขตอุทยานแห่งชาติรามคำแหง จังหวัดสุโขทัย
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะต้องเดินไต่ระดับความสูงบนยอดเขาที่ค่อนข้างสูงชัน
เป็นระยะทาง 3 กิโลเมตรกว่า ๆ ไปที่ระดับความสูงกว่า 1,200 เมตร
ไม่ต้องห่วง เพราะตลอดระยะทางมีจุดให้พักเหนื่อยอยู่หลายจุด
แต่เมื่อเทียบกับความสวยงามของวิวข้างบนแล้ว
รับรองว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อย ภาพที่คุณจะได้เห็น
คือภาพทะเลหมอกของยอดเขาหลวง ที่ต้องบอกว่าวิวสวยมากถึงมากที่สุด
เหมาะที่จะตื่นแต่เช้ามารอดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดนี้
ว่ากันว่าอยากจะดูทะเลหมอกที่เขาหลวงให้ฟิน ต้องมาช่วงหน้าฝน
ทะเลหมอกสีขาวที่จับตัวกันเป็นก้อนคล้ายกับสำลี
เป็นความสวยงามที่มีเอกลักษณ์ และสัมผัสได้ที่เขาหลวงได้ที่เดียว
Tips :
แม้ว่าระยะทางที่เดินขึ้นจะไม่ไกลเพียงแค่ 3 กิโมเมตรกว่า ๆ
แต่ทางขึ้นค่อนข้างมีความโหดอยู่ไม่น้อย โดยเฉลี่ยใช้เวลาเดินประมาณ 3-5
ชั่วโมง ควรพกน้ำดื่มคนละ 1 ขวดติดตัวไปด้วย
อีกทั้งข้างบนยังมีลานกางเต็นท์ ร้านค้าส่วนใหญ่เป็นอาหารแห้ง
(ทางที่ดีเตรียมไปเองจะดีที่สุด) มีลูกหาบบริการ
แต่ควรติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่อุทยานไว้ล่วงหน้า
(สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาหลวง โทร. 055 910 000-1
หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุโขทัย โทร. 055 616 228-9
ต่อไปนี้การเดินทางไปชมความสวยงามของทะเลหมอกไม่ใช่ทำได้แต่เพียงช่วงหน้า
หนาวเท่านั้น หากแต่ทะเลหมอกในช่วงฤดูฝนก็สวยงามไม่ได้แตกต่างกันแม้แต่น้อย
อยู่ที่ว่าคุณจะมองเห็นและให้คุณค่าความสวยงามที่อยู่ตรงหน้าคุณได้มากน้อย
แค่ไหน ฤดูฝนแบบนี้ลองเดินทางตามหาทะเลหมอกดูสักที่
เราคุณจะรู้เลยว่าธรรมชาติช่วงหน้าฝนให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด ^ ^
ที่มา : ฟซบุ๊ก ข่าวสารท่องเที่ยว ททท., เฟซบุ๊ก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดราชบุรี, เฟซบุ๊ก Noongning Chanpen, เฟซบุ๊ก CBT BAAN JABO การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนบ้านจ่าโบ่, เฟซบุ๊ก Darin Elle, เฟซบุ๊ก Opol Ampornsin, เฟซบุ๊ก วัดกองเนียม เพชรบูรณ์