20 มีนาคม 2560
|
เปิดอ่าน 2012
สาวดวงซวยทำบัตรประชาชนหาย เมื่อ 2 ปีก่อน จู่ๆ กลายเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงถึง 9 คดี มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
(19 มี.ค.60) นางสาวชนัญธิดา อายุ 36 ปี และนางเพ็ญศรี อายุ 60 ปี มารดา ได้เดินทางเข้ามาพบผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม และขอความช่วยเหลือ กรณีที่นางสาวชนัญธิดา หรือชื่อเดิม นางสาวจิราภา ได้ทำบัตรประจำตัวประชาชนหล่นหาย ที่กรุงเทพฯ เมื่อ 3 ปี และได้มีการแจ้งความบัตรประชาชนหายไว้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ ปจว.ลำดับที่ 10 เวลา 09.20 น. เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2557 และได้ถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองสุรินทร์
จู่ๆได้มีหมายเรียก จากสถานีตำรวจหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย และต้องกลายมาเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ถึง 9 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท ทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่เคยไปเปิดบัญชีธนาคาร และทำบัตร ATM สร้างความเดือดร้อน วุ่นวาย ไม่เป็นอันทำมาหากิน อีกทั้งครอบครัวมีฐานะยากจน ต้องเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียก และวิ่งหาเงินประกันตัว วอนสื่อช่วยสะท้อนความจริงให้สังคมช่วยเหลือ ด้านกฎหมาย และมนุษย์ธรรม
นางสาวชนัญธิดา เล่าว่า ไปรษณีย์มาส่งจดหมายที่บ้านเป็นจดหมายของทางราชการ พอเปิดดูเป็นหมายเรียกผู้ต้องหา คดีฉ้อโกง จึงได้ปรึกษาแม่ และได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าตำรวจที่ออกหมายเรียกดังกล่าว แนะนำให้ไปปรึกษาดูที่ธนาคารใกล้บ้าน จึงทราบว่ามีผู้อื่นแอบอ้างนำเอาบัตรประจำตัวประชาชน ไปเปิดสมุดบัญชี ในชื่อของตนเอง และได้หลอกผู้เสียหายจำนวนมากให้โอนเงินเข้าบัญชี ต่อมาตนได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองพังงา จ.พังงา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
นางสาวชนัญธิดา เผยว่าหมายเรียกครั้งที่ 6 -7 คนร้ายเอาบัตรประชาชนตนไปเปิดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา อิสวิลล์ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 8 ที่สภ.แม่ใจ จ.พะเยา คนร้ายเอาบัตรประชาชนตนไปเปิดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาจัตุรัสจามจุรี กรุงเทพฯ และครั้งที่ 9 เป็นหมายเรียกผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกง จาก สภ.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต คนร้ายเอาบัตรประชาชนตนไปเปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาเดอะมอลล์ บางกระปิ
ล่าสุด ไปขอเปิดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาจัตุรัสจามจุรี กรุงเทพฯ และมีใบทวงหนี้ค่าโทรศัพท์ ที่คนร้ายเอาบัตรประชาชนตนไปเปิดเบอร์ใหม่ ตนขอฝากผ่านสื่อถึง คนร้ายถ้าคุณหยุดได้ก็ขอให้หยุด เพราะตอนนี้ตำรวจยังจับตัวไม่ได้ แต่ตำรวจแจ้งว่าคนในแก๊งคุณถูกจับกุมหมดแล้ว ทางที่ดีอยากให้เข้ามอบตัว มารับผิดชอบในสิ่งที่ทำ และขอให้หยุดเสียที เงินที่เอาไปใช้ก็คงไม่มีความสุข ตนไม่เคยเป็นอาชญากร ไม่เคยขโมยเงินของใคร 10-20 บาท ก็ไม่เคยอยากเอาของใคร ตนขอเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับตนเองด้วย
ด้าน นางเพ็ญศรี อายุ 60 ปี มารดา บอกว่า ที่เขามาเป็นแบบนี้เพราะว่า บัตรประชาชนเขาหาย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 แต่มีคนร้ายนำบัตรประชาชนของลูกสาวมาเปิดบัญชีธนาคารในปี พ.ศ.2559 เริ่มเดินสายเปิดบัญชี ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.2559 เปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร 3 เล่ม 3 บัญชี พร้อมกันในวันเดียว ทุกวันนี้น้ำตาตก ทุกข์มากที่ลูกสาวต้องกลายมาเป็นผู้ต้องหา โดยที่ไม่รู้ตัว แค่บัตรประจำตัวประชาชนตกหายแค่ใบเดียว ก็สามารถติดคุกได้ จะมีสังคมไหนที่จะช่วยเราได้พยายามหาทางช่วยให้ลูกสาวรอด ไปสภาทนายความก็ไป ไปอัยการจังหวัดก็ไป กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ดำรงธรรมก็ไป ทนายความตามรายการโทรทัศน์ก็โทรคุยปรึกษาเขา
ทนายความก็แนะนำให้ไปเอาใบแจ้งความบัตรประชาชนหาย จะใช้แทนตัวเราได้แต่บางที่เขาก็ไม่ดูเลย ตำรวจบางท่านก็จะเอาใบแจ้งความอย่างเดียว ซึ่งตอนไปแจ้งความก็ไม่ได้เก็บใบแจ้งความไว้เลย คิดว่าแค่บัตรประชาชนหายคงไม่มีคดีอะไรขึ้นมาแบบนี้
ที่มา : http://news.sanook.com/2186222/