18 มิถุนายน 2559
|
เปิดอ่าน 1880
‘พล.อ.ไพบูลย์’ ชี้แค่แนวความคิด กรณีถอด ‘ยาบ้า’ พ้นบัญชี ‘ยาเสพติด’ ถามกลับ เหล้า บุหรี่ กาแฟ มีผลต่อจิตประสาทเช่นเดียวกับยาบ้า ทำไมเปิดค้าเสรีได้ ?
จากกรณีที่มีกระแสข่าว เล็งยกเลิก ‘เมทแอมเฟตามีน’ จากยาเสพติดรุนแรงเป็นยาปกติ ถอด ‘ยาบ้า’ พ้นบัญชี ‘ยาเสพติด’ เมื่อปราบไม่สำเร็จก็ต้องอยู่ร่วมกันนั้น ล่าสุด (17 มิ.ย. 59) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เผยก่อนหน้านี้ตนได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบภายหลังประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในวาระพิเศษ (UNGASS) ว่า
ขณะนี้การปราบยาเสพติดโดยใช้วิธีรุนแรงอาจไม่ได้ผลและกระแสโลกเปลี่ยนไป มีผลวิจัยหลายชิ้นระบุว่า องค์ประกอบของยาเสพติด จากพืชทั้งกัญชาและฝิ่น สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้ซึ่งมาตรการปราบยาเสพติดที่ผ่านมาเน้นแต่การทำลายแหล่งผลิต สกัดเส้นทางขนส่งสารตั้งต้นและจัดการกับผู้ค้ารายใหญ่
ซึ่งพบว่า ผู้ที่ถูกจับกุมเป็นผู้ค้ารายย่อยทำหน้าที่เพียงรับจ้างขนและจำหน่ายกับผู้เสพ สร้างปัญหาอาชญากรรม ผู้ต้องขังล้นเรือนจำ ออกมาก็สร้างปัญหาสังคมกลับไปเสพยา ขยายเครือข่าย เมื่อไม่สามารถปราบได้หมดจึงควรหาแนวทางอยู่กับยาเสพติดอย่างไร ทั้งนี้ที่ตนเองเสนอเป็นเพียงแนวทางหนึ่งเท่านั้น ยังไม่ได้มีการศึกษาอย่างชัดเจน จึงต้องถามสังคมว่ามีความเห็นอย่างไร
ทั้งนี้ ป.ป.ส. พยายามแก้ปัญหาด้วยการแก้ไขกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ และพิจารณาเรื่องกำหนดโทษ ผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้จำหน่ายและผู้เสพ ว่ารุนแรงเกินไปหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขอให้สังคมช่วยพิจารณาว่า สุรา บุหรี่ และกาแฟ เป็นสารเสพติดหรือไม่ แล้วเหตุใดจึงไม่มีการจับกุมแต่ปล่อยให้มีการค้าแบบเสรี เพราะสุรา บุหรี่ กาแฟล้วนมีผลต่อจิตประสาทเช่นเดียวกับยาบ้า
ที่มา : MThai News