รวม 4 สมาร์ทโฟนสเปกระดับเรือธงในราคาไม่เกิน 15,000 บาท! แต่ละรุ่นมีความโดดเด่นอย่างไร คุ้มค่าน่าซื้อมากแค่ไหน เราคัดมาให้ท่านแล้ว!

เรียกได้ว่าแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังต่างก็ส่งสมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นเด็ดมาประชันกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์ รวมถึงได้รับการผลิตจากวัสดุระดับพรีเมียมจะต้องมีราคาวางจำหน่ายที่สูงตามไปด้วย

แต่ก็มีผู้ผลิตบางรายที่เน้นการผลิตสมาร์ทโฟนระดับเรือธงในราคาสบายกระเป๋า ดังนั้นทางทีมงานThaimobilecenter จึงได้ทำการคัดเลือก และรวบรวมสมาร์ทโฟนรุ่นเด่นที่พกพาประสิทธิภาพระดับเรือธงในราคาไม่เกิน 15,000 บาท มาให้ได้ชมกัน ซึ่งจะมีสมาร์ทโฟนรุ่นเด่นจากแบรนด์ใดบ้างนั้น เชิญติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยค่ะ

Meizu Pro 6 ราคา 2,500 หยวน (ประมาณ 13,500 บาท)

Meizu PRO 6 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดจากค่าย Meizu ที่มาพร้อมตัวเครื่องดีไซน์สวยหรูด้วยการผลิตจากวัสดุประเภทโลหะ โดยมีจุดเด่นที่เทคโนโลยีการแยกแยะแรงกดบนหน้าจอ หรือ 3D Press ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้หลายมิติมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

- จอแสดงผลแบบ Super AMOLED Full HD 1080p ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล พร้อมกระจกป้องกันหน้าจอ Gorilla Glass 3
- รองรับระบบแยกแยะแรงกดบนหน้าจอด้วยเทคโนโลยี 3D Press
- ชิปเซ็ตประมวลผล Deca-Core (10-Core) MediaTek Helio X25
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 32GB และ 64GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 21 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2 และไฟแฟลชแบบ LED 10 ดวง
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.0
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนเทคโนโลยี mTouch 2.1
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 2560 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ mCharge 3.0

Meizu PRO 6 รุ่นความจุ 32GB มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 2,500 หยวน (ประมาณ 13,500 บาท) ส่วนรุ่นความจุ 64GB มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 2,800 หยวน (ประมาณ 15,100 บาท)
 

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Meizu Pro 6

 ZTE Nubia Z11 Max ราคา 1,999 หยวน (ประมาณ 10,700 บาท)

ZTE Nubia Z11 Max สมาร์ทโฟนน้องใหม่จากตระกูลเรือธงอย่าง Nubia Z11 Series ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่เต็มตาที่ 6 นิ้ว บนตัวเครื่องโลหะสุดแกร่ง และมีความบางเฉียบเพียง 7.4 มิลลิเมตรเท่านั้น โดยพกพาประสิทธิภาพระดับไฮเอนด์มาอย่างครบครัน ดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 159.2x82.3x7.4 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 185 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล : 368 ppi) พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 652 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 510
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB ซึ่งสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 200GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED แบบ Dual Tone, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 และระบบป้องกันภาพสั่วไหวแบบ OIS
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาดกว้างสูงสุดที่ F/2.4
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Quick Charge 3.0 
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 3.9.9
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.1
 

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ZTE Nubia Z11 Max 

 Honor Note 8 ราคา 2,299 หยวน (ประมาณ 12,000 บาท)

Honor Note 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากบริษัทลูกของ Huawei อย่าง Honor ที่มาพร้อมการดีไซน์หน้าจอใหญ่ 6.6 นิ้วแทบไร้ขอบอันโดดเด่น บนตัวเครื่องที่ผลิตจากวัสดุประเภทอะลูมิเนียมบางเฉียบ 7.18 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเบาเพียง 219 กรัม อีกทั้งยังมีคุณสมบัติครบครันในทุกองค์ประกอบดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 178.8x90.9x7.18 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 219 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K Quad HD (1440x2560 พิกเซล : 443 ppi) พร้อมกระจกขอบโค้งแบบ 2.5D
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Kirin 955 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-T880
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32GB, 64GB และ 128GB พร้อมรองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 128GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง Fast Charging
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย EMUI 4.1 
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE และเทคโนโลยี VoLTE การสื่อสารผ่านโครงข่าย 4G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.2
 

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Honor Note 8 

 OnePlus 3 ราคา 399 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 14,100 บาท)

OnePlus 3 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดเจ้าของฉายานักฆ่าเรือธงจากค่าย OnePlus ที่มาพร้อมการดีไซน์ตัวเครื่องสุดพรีเมียมด้วยการผลิตจากอะลูมิเนียมทั้งเครื่อง และมีความบางเฉียบเพียง 7.35 มิลลิเมตร รวมไปถึงมาพร้อมคุณสมบัติ และฟีเจอร์การทำงานแบบจัดเต็มในทุกองค์ประกอบ ดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 152.7x74.7x7.35 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 158 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล : 401 ppi) พร้อมครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 4 และมีขอบหน้าจอบางเพียง 0.755 มิลลิเมตร
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 820 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 530
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB 
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX298, พิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน, ไฟแฟลช LED, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0, ระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และรองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ซึ่งรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K Ultra HD (2160x3840 พิกเซล)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX179, พิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS
- แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Dash Charge 
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย OxygenOS
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือภายใต้ปุ่มโฮม
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB 2.0 และ USB Type-C
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2 และ NFC
- รองรับระบบเสียงคุณภาพสูงแบบ Dirac HD Sound

ที่มา : thaimobilecenter.com