หลังฤดูกาลแห่งการรับปริญญา เป็นเวลาที่น้องหน้าใสจำนวนไม่น้อย รอคอยเวลาสัมภาษณ์งาน

อันถือเป็นรอยต่อข้อชีวิตที่สำคัญ เป็นจุดหลายแพร่งแห่งการเริ่มต้นเป็น “คนทำงาน”

ลุงๆป้าๆเช่นดิฉันและพรรคพวก ขอเอาใจช่วย อวยพรให้หนูๆโชคดี แต่โชคที่ไหนๆ คงไม่มีดีเท่าโชคที่เราดลบันดาลสานสร้างด้วยความเพียร

ดังนั้น ก่อนไปสัมภาษณ์ ต้องเตรียมตัว เตรียมกาย ที่ยาก จะได้เป็นง่าย ที่ง่าย จะได้เข้าทางเรา ไม่ต้องเฝ้าขอเงินพ่อแม่จนแก่เสียที

ลองมาไล่เรียงดูว่าผู้อื่นเขาทำอะไรยามไปสัมภาษณ์ ที่ส่งผลให้พลาดโอกาสง่ายๆ เราจะได้ไม่ตายน้ำตื้นตามค่ะ

1.แต่งกายพลาด

กรุณาเลือกให้เหมาะ เพราะการสัมภาษณ์ถือเป็นวาระที่เป็นทางการ

อยู่บ้านเราแต่งอย่างไร ไม่มีใครว่า แต่เมื่อไปบ้านเขา อย่างน้อยต้องให้เกียรติ และแสดงว่าเราเคารพในสถานที่ และผู้ที่จะสัมภาษณ์

ทั้งนี้ ไม่ต้อง (ไม่ควร) หรูระยิบ แบบดูหยิบโหย่ง ผมโป่งบานฟูฟ่อง แบบมองไม่จืด วืดไม่ยาก

เลือกแต่งกายแบบกลางๆ นิ่งๆ ให้ใกล้กับสิ่งที่ต้องการทำ เช่น เป็นสำนักงานกฏหมาย กรุณาเลี่ยงเสื้อลายพร้อย สีทึบเรียบ ได้เปรียบกว่า

หรือเป็นองค์กรที่ต้องว่องไว วิ่งไล่ไอเดีย ก็สามารถผ่อนคลายได้ระดับหนึ่ง แต่ต้องไม่ลืมว่า เราอยากดูเป็นมืออาชีพ
First Impression หรือ ความประทับใจยามพบกันครั้งแรก เป็นสิ่งสำคัญ อย่าแปลกใจว่าเขาตัดสินกันไวด้วยสายตา

สิ่งที่เห็นโดดเด่นเป็นสิ่งแรก คือ การแต่งกาย สิ่งนี้จึงเป็นปัจจัยที่ชี้วุฒิภาวะ ว่ารู้กาละและเทศะหรือไม่

2. พลาดเวลา

นัดเวลาใด ครั้งแรกต้องไม่พลาด

อย่าไปสาย ย้ำ อย่าไปสาย โอกาสของใครต่อใครอันตระธานไปมากต่อมาก ก็จากสาเหตุนี้

ครั้งแรกยังสาย แล้วจะให้เราไว้ใจให้คุณทำอะไรดีหนอ

ดังนั้น เล็งให้ดี หากมีเวลา ลองไปสำรวจเส้นทางไว้ล่วงหน้า ก็ไม่ผิดกติกาใดๆ หรือ อย่างน้อย วันจริงต้องกันเหนียว เผื่อเวลา อย่าไว้ใจสภาวะจราจรเป็นอันขาด

3. พลาดการบ้าน

การบ้านสำคัญที่ต้องทำ คือ ต้องหา ต้องเรียนรู้ ต้องดูข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่จะไปสัมภาษณ์

คำถามพื้นๆที่ต้องไม่ตายน้ำตื้นยามตอบ คือ “คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง”

คำถามอื่นๆดาษดื่นทั่วไป ก็ควรเตรียมใจเตรียมตัวตอบ เช่น ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ลักษณะนิสัย จุดแข็ง จุดอ่อนของเรา จะทำอะไรให้เป็นประโยชน์กับองค์กรเขา เป็นต้น

4. พลาดเพราะกระหน่ำย่ำอดีต

ผู้สัมภาษณ์หลายคนอยากให้เราเล่าว่าทำไมออกจากงานเดิม หรือทำไมไม่ไปทำงานที่ๆเคยฝึกงานมา หรือให้เล่าว่า ประสบการณ์ที่หนักใจเวลาทำงานกับคนอื่นมีอะไรบ้าง

กรุณาอย่าฝ่าสัญญานอันตรายนี้ โดยคิดว่าพี่ที่สัมภาษณ์เป็นญาติสนิท เลยหลงผิดเล่าความคับแค้นแน่นอกคับใจกับอาจารย์ กับนายเก่า กับเหล่าเพื่อน ไม่ว่าจริงๆเขาจะฟั่นเฟือนขนาดไหน ก็ไม่สมควร

ทั้งนี้ ต้องเล่าอย่างมีสติ เลี่ยงพาดพิงใครในแง่ลบ สรุปจบด้วยการเน้นอนาคตข้างหน้า ว่าต้องการแสวงหางานที่เราสนใจ ที่ได้ใช้ความสามารถ ที่มีโอกาสก้าวหน้า โดยไม่ต้องก่นด่าว่าใคร ได้ไม่คุ้มเสีย

5. พลาดเพราะคำถาม

ผู้สัมภาษณ์ยุคนี้ ก่อนยุติการคุย มักถามเราว่า มีคำถามอะไรไหม

กรุณาอย่าพลาดโอกาสนี้

คนทำงานยุคใหม่ หมดสมัยเหนียมอาย ส่ายหน้า บอกเบาๆว่า “เอ่อ...ไม่มีค่ะ”

เตรียมคำถามกลางๆแบบมืออาชีพ เช่น สอบถามความคาดหวังขององค์กรต่องานตำแหน่งนี้ หรือ ถามว่าดัชนีชี้วัดความสำเร็จของงานนี้คืออะไร

ถามเรื่องเงิน และสวัสดิการได้ ไม่ผิดกติกา แต่ต้องถามเรื่องเนื้องานก่อน เลี่ยงดูมืออ่อน มองแต่ตนเอง

เตรียมการให้ดี ทำให้เต็มที่ ไม่มีตายน้ำตื้น

แม้พลาด ก็พลาดแบบสมศักดิ์ศรี

ที่นี่ไม่ได้ ที่อื่นมีถมไป ไม่ท้อค่ะ

ที่มา : http://www.nationejobs.com/content/tiptools/jobtips/template.php?conno=553