1 พฤศจิกายน 2554
|
เปิดอ่าน 4170
บริษัทดังๆ ภาพลักษณ์ดีๆ ใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากเข้าไปทำงานกันทั้งนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้คงไม่แปลก หากบริษัทที่มีชื่อเสียงจะเป็นเป้าหมายที่ผู้หางานใหม่ต่างยื่น Resume สมัครเข้าทำงานเข้าไปเป็นจำนวนมาก บริษัทยิ่งดัง ตัวเลือก (คนสมัคร) ยิ่งเยอะ แล้วทำยังไงให้ Resume ของเราโดดเด่นจนเข้าตานายจ้างได้ล่ะ ที่สำคัญมันจะต้องแตกต่างจาก Resume ของคู่แข่งที่อยู่ในแฟ้มเดียวกันอีกด้วย
Resume แบบเดิมๆ อาจจะไม่ชวนสะดุดตา ลองหาวิธีใหม่ในการนำเสนอตัวเองด้วย Resume ที่ออกแบบให้ฮิพสักหน่อย เพิ่มเข้าไปให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น ท่าจะดีเหมือนกัน
วิธีแรกเลยก็คือ เพื่อนๆ อาจจะลองใส่รูปภาพเข้าไป Resume ดูบ้างนอกจากตัวอักษร แต่ต้องพอดีและเหมาะสมกับตำแหน่งของงาน ไม่ใช่ใส่จนเลอะเทอะไม่สวยงาม (ถ้าเป็นพวก art ก็ต้องเยอะหน่อยนะคะ) ข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ได้บ้าง ซึ่งความจริงยังมีตัวอย่างสวยๆ อีกมากมายอยู่ในเว็บไซต์ deviantart.com ครับ
สำหรับเทคนิคที่กำลังเป็นที่นิยมในการนำเสนอข้อมูลแบบสรุปย่อของคนรุ่นใหม่ก็คือ Infographic (Info+Graphic = ข้อมูล+ภาพ) หรือพูดง่ายๆ ก็คือ การใช้ภาพแสดงแทนข้อมูล เนื่องจากผู้คนในโลกยุคใหม่ จะสนใจอ่านตัวหนังสือ”น้อยลง” แต่รับข้อมูลที่เป็นภาพ (หรือ มัลติมีเดีย) มากขึ้น เพื่อนๆ อาจจะงง หรือนึกไม่ออกว่า Resume ที่เขียนแบบ Infographic คืออะไร ทางเราได้หาตัวอย่างเจ๋งๆ มาให้ดูกันด้วย
คงจะน่าสนใจไม่น้อย หาก Resume ของคุณโต้ตอบกับฝ่ายบุคคลของบริษัทได้ทันที ฉะนั้นแล้ว การมี QR Code อยู่บน Resume ถือเป็นการเชื้อเชิญให้นายจ้างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสแกน หากเกิดรู้สึกสนใจในประวัติของคุณ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า QR Code เมื่อถูกสแกนจะเชื่อมโยงไปยังข้อความหรือ URL ที่พาไปยังเว็บไซต์ต่างๆ ได้ ยิ่งถ้าหากนายจ้างสแกนขึ้นมาเป็นเบอร์โทรศัพท์ของคุณก็ยิ่งดีใหญ่
เทคนิคนี้เป็นมุขของนาย Victor Petit ชาวฝรั่งเศสที่คิดคอนเซปในการใช้ QR Code กับ Resume ร่วมกัน ลองเข้าไปดูคลิปสาธิตคอนเซปนี้ได้ที่ http://vimeo.com/21228618 แล้วคุณจะชอบ
Resume แบบเดิมๆอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่ทำให้นายจ้างรู้จักตัวตนที่แท้จริงของ ผู้สมัคร หลายครั้งหากบริษัทดังๆรู้จักคุณมากกว่านี้คงจ้างคุณไปทำงานด้วยไปนานแล้ว (หรือถ้ารับไปแล้วอาจคิดว่า ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้ไม่รับซะดีกว่า) Social Network หรือสังคมออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง facebook ถือเป็นอีกช่องทางสำคัญเพื่อใช้สื่อสารหรือบอกบริษัทให้รู้จักตัวตนของคุณมากขึ้น แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ รายละเอียด ประวัติต่างๆ ควรอัพเดทและทำให้ถูกต้องอยู่เสมอ
ตัวอย่างของ Henry OLoughlin ที่ใช้ Social Network อย่าง facebook มาใช้เป็น Resume แทนรูปแบบเดิมๆ โดยในคลิป Henry ได้แนะนำ การใช้ความสามารถต่างๆใน facebook ให้เกิดประโยชน์ในการสมัครงาน http://www.youtube.com/watch?v=TjssNSRXdjU ดัง นั้น หากคุณกำลังหางานใหม่ อย่าลืมใส่ URL facebook ของคุณลงใน Resume ด้วย ไม่แน่คนกดไลค์ถูกใจให้คุณหนึ่งในนั้นอาจเป็น HR บริษัทที่คุณกำลังจะยื่น Resume สมัครงานอยู่ก็ได้
หลายคนที่เคยผ่านประสบการณ์หาทำงานมาก่อนอาจจะคุ้นเคยกับการกรอกข้อมูลสมัครงาน ผ่าน Application online หรือ อัพโหลดไฟล์ Resume ขึ้นไปยังเวบไซท์สมัครงาน หรือเว็บบริษัทที่เราต้องการสมัครโดยตรง ซึ่งปกติแล้วเวบไซท์เหล่านี้จะมีเครื่องมือสำหรับนายจ้างค้นหารายชื่อคนที่ เหมาะกับตำแหน่งงานมากที่สุด เช่น ค้นหาตามตำแหน่ง, อายุงาน, ความสามารถพิเศษ, นิสัย เป็นต้น
จะเป็นการดีกว่า หากเรากรอกข้อมูลให้ชัดเจนถูกต้อง และตรงกับ”ตัวเรามากที่สุด” อีกทั้งใส่ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นคุณสมบัติที่สัมพันธ์กับตำแหน่งที่ต้องการสมัครเพื่อให้นายจ้างค้นหาเราเจอผ่านข้อมูลออนไลน์ได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ไม่ควรเป็นบิดเบือนไปจากความจริง เพราะสุดท้ายจะถูกจับได้ว่าโกหกในตอนสัมภาษณ์
การใช้คลิปวีดีโอ หรือเว็บไซต์สามารถถ่ายทอดเรื่องราวและตัวตนของคุณถือเป็นเทรนด์ใหม่กำลัง ได้รับความนิยมในการใช้สมัครงาน นอกจากนี้ยังมีเทคนิคและลูกเล่นใหม่ๆเพิ่มเติมเข้ามาทำให้ผู้สมัครมีภาพลักษณ์ดูดีมีกึ๋นมากขึ้น
ตัวอย่างคลิปแนะนำตัวสุดครีเอทของนาย Graeme Anthony ซึ่งแนะนำเทคนิคพื้นฐานในการใช้คุณสมบัติ ง่ายๆบน youtube อย่างเช่น ข้อความประกอบ (Annotation) ประยุกต์ใช้ให้เป็น Resume The Movie ที่มี interactive กับผู้ชม โดยในตอนจบสามารถคลิกเชื่อมต่อไปยังคลิปแนะนำตัวอื่นๆ ของ Graeme ได้
คลิปต่อมาเหมือนจะไม่ได้ตั้งใจมาสมัครงาน ออกจะคล้ายๆเดอะสตาร์ เอเอฟ ไทยแลนด์กอททาเล้นท์ ที่ขนความสามารถด้านดนตรีงัดออกมาโชว์อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะทั้งร้องทั้งเล่นกีต้าร์ควบคู่กันไป แต่เมื่อได้ฟังเพลงที่นาย Alec Biedrzycki ร้องแล้วก็ต้องอดขำไม่ได้กับคอนเซป Resume The Musical ที่ใช้ร้องเพลงเล่าประวัติของตนเองอย่างสนุกสนาน แถมท่อนฮุค “Hire Me!”(จ้างผมที!) สร้างสรรค์แบบนี้โฟว์เอสรับอยู่แล้วครับท่าน
ที่มา : http://men.mthai.com/work/work-tips/907.html